ASEAN’s Cosmetics & Dietary Supplement Manufacturing Event
4 - 6 พฤศจิกายน 2568

Blue Beauty
เทรนด์บิวตี้ใหม่ใส่ใจสุขภาพโลก

ยุคนี้แค่สวยอย่างเดียวไม่พอ เรายังต้องคำนึงถึงโลกที่เราอาศัยอยู่ด้วย ขณะที่หลายคนคุ้นเคยกับเทรนด์สีเขียว (Green) แต่มีอีกเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการความงาม ก็คือ Blue Beauty เทรนด์ใหม่ที่เน้นผลิตภัณฑ์ความงามเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยนอกจากจะเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) การลดปริมาณพลาสติกโดยเน้นใช้พลาสติกรีไซเคิล ก็ยังรวมไปถึงการปกป้องทะเลจากสารเคมีที่เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ เช่น ครีมกันแดด เป็นต้น

แล้ว Blue Beauty กับ Green Beauty ต่างกันอย่างไร?  Blue Beauty ไม่เพียงเน้นการใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีแหล่งที่มาของทรัพยากรที่ยั่งยืน แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของสัตว์ทะเล ตลอดจนลดการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างสิ้นเปลือง ทั้งหมดนี้เพื่อปกป้องอันตรายมีต่อมหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพชีวิต แต่ไม่ว่าคุณจะนิยมสายเขียวหรือสายฟ้า ทั้ง Blue Beauty กับ Green Beauty ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยพิทักษ์โลกจากการสูญเสียทางธรรมชาติทั่วโลก (Global Nature Loss) และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (climate change)

และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่เหล่าแบรนด์ความงามจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกของเรา หลากหลายแบรนด์เริ่มมีแนวคิดในการใช้พลาสติกแบบ PCR (post-consumer recycled plastics) สำหรับบรรจุภัณฑ์ความงาม ในขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ปราศจากสารเคมีบางอย่างที่มีผลวิจัยว่าทำลายระบบนิเวศทางทะเลและสิ่งมีชีวิต เช่น แบรนด์ One Ocean Beauty ผลิตภัณฑ์ความงามที่ไม่เพียงแต่ใช้สารสกัดที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล แต่บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสามารถรีไซเคิลได้ 100% หรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (sunscreen) จากแบรนด์ Caudalie และ แบรนด์ Coola โดยที่เหล่าบิวตี้อินฟลูเอนเซอร์และสาวๆ ที่รักความงามทั่วโลกต่างก็ให้เสียงตอบรับกันเป็นอย่างดี

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผู้บริโภค ก็ล้วนสามารถตระหนักรู้และเริ่มต้นช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในส่วนที่เราทำได้ เพราะโลกนี้คือบ้านที่เราจะต้องอาศัยและทะนุถนอมต่อไปเพื่อส่งต่อให้แก่คนรุ่นใหม่ในอนาคต 

 

ที่มา

ข้อมูลจาก Elle UK (www.elle.com)

ภาพจาก Freepik, Cosmopolitan and WWF Instagram